14 พฤศจิกายน 2025
ข่าวล่าสุด
ไทย พบ สิงคโปร์ ย้อนเกมเปิดยุคฮัดสันพร้อมประเมินฟอร์มและคาดการณ์เกมต่อไป
เกมอุ่นเครื่องคู่ระหว่าง ไทย พบ สิงคโปร์ ครั้งนี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของยุคใหม่ภายใต้การคุมทีมของ แอนโธนี ฮัดสัน
แม้ผลแข่งจะออกมาชนะ 3-2 แต่รูปเกมเต็มไปด้วยประเด็นน่าสนใจ ตั้งแต่การจัดตัว ปัญหาเกมรับ ไปจนถึงการเบรกความกังวลของแฟนบอลที่อยากเห็นความลงตัวเร็วขึ้น
ผมในฐานะแฟนบอลที่ตามดูทีมชาติไทยทุกยุค อยากเล่าให้ฟังว่าชัยชนะในเกม ไทย พบ สิงคโปร์ นี้มีอะไรมากกว่าตัวเลขบนสกอร์บอร์ด
ภาพรวมเกม ไทย พบ สิงคโปร์ เกมเปิดตัวฮัดสันแบบมีทั้งหวานและขม
ฮัดสันเริ่มต้นด้วยระบบ 4-3-3 แบบที่หลายคนอยากเห็น เพราะนักเตะถูกใช้งานตามธรรมชาติของตัวเอง
ฝั่งซ้ายมีทั้ง เควิน ดีรมรัมย์ และ สุภโชค สารชาติ ซึ่งประสานงานกันได้ดีช่วงต้น แต่ยังติดปัญหาเล็กน้อยเรื่องจังหวะสุดท้าย
การขึ้นเกมส่วนใหญ่ผ่าน ธีราทร บุญมาทัน ทำให้สิงคโปร์จับทางได้ง่ายในครึ่งแรก
ส่วนฝั่งขวาค่อนข้างเงียบเพราะบอลไม่ค่อยถูกกระจายออกมาเท่าที่ควร
แนวรุกมี ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่กลับมารับบทจอมทัพเต็มตัว เสริมด้วย เบน เดวิส และ สุภโชค
ขณะที่หน้าเป้า ศุภชัย ใจเด็ด ทำงานหนักพอสมควร ทั้งการพักบอลและไล่บีบพื้นที่
เกมรับคือจุดที่ยังไม่นิ่ง พรรษา เหมวิบูลย์ กับ ณัฐพงษ์ สาริยา มีจังหวะหลุดและอ่านบอลกลางอากาศพลาดหลายครั้ง
ซึ่งเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้ ไทย พบ สิงคโปร์ กลายเป็นเกมที่สูสีเกินคาด
สรุปเหตุการณ์สำคัญในเกมแบบมุมมองแฟนบอล
ช่วงต้นเกมไทยพยายามคุมบอลและบุกทางฝั่งซ้าย แต่สิงคโปร์สวนกลับได้อันตรายหลายครั้ง
การเสียประตูเกิดจากจังหวะหลุดตำแหน่งของเซนเตอร์และการตามประกบที่ช้าไปครึ่งจังหวะ
แต่จุดที่ทำให้เกมเปลี่ยนคือการส่ง เสกสรรค์ ราตรี ลงมาในครึ่งหลัง
เขาเติมความดุดัน เก็บบอลได้ดี และลูกยิงไกลสุดสวยที่กลายเป็นประตูชัยระดับฮีโร่
ตอนนั้นสนามเหมือนตื่นขึ้นมาอีกครั้ง
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย มีสองจังหวะหลุดเดี่ยวที่น่าได้มากกว่านี้ แต่ยังขาดความมั่นใจ
ส่วน จู๊ด เบลล์ แม้พลาดจุดโทษ แต่การหาพื้นที่และเชื่อมบอลถือว่ามีแวว เด็กคนนี้ต้องให้เวลา
ภาพรวมเกมถือว่าสนุก แต่ก็ชัดเจนว่าทีมชาติไทยยุคใหม่ยังต้องใช้เวลาอีกพอสมควรเพื่อให้ระบบฟลูไหลลื่น
ประเมินฟอร์มและให้คะแนนนักเตะทีมชาติไทย
ธีราทร บุญมาทัน 7 คุมจังหวะเกมได้ดี แม้บางช่วงถูกอ่านเกมแต่ยังเป็นหัวใจสำคัญของแดนกลาง
สารัช อยู่เย็น 6 เล่นตามมาตรฐาน แต่มีบางจังหวะจ่ายบอลพลาดแบบไม่จำเป็น
ชนาธิป สรงกระสินธ์ 7 สร้างเกมดีมาก แต่ยังไม่สุดเพราะโดนประกบหนัก
สุภโชค สารชาติ 7 ความคล่องตัวสูง ลากตัดดี แต่การจบสกอร์ยังขาดความคม
เบน เดวิส 6 เชื่อมเกมดี แต่บางช่วงหายไปจากเกม
ศุภชัย ใจเด็ด 7 ทำงานหนัก ช่วยบีบพื้นดี แต่น่าเสียดายที่มีน้อยจังหวะยิง
พรรษา เหมวิบูลย์ 5 มีหลายจังหวะหลุดตำแหน่ง ลูกกลางอากาศไม่นิ่ง
ณัฐพงษ์ สาริยา 5 จังหวะช้าไปครึ่งวินาทีหลายนัด ทำให้เสียพื้นที่ง่าย
เควิน ดีรมรัมย์ 7 เติมเกมดี วิ่งไล่ตลอด แต่มีบางช็อตเปิดบอลไม่แม่น
นิโคลัส มิคเคลสัน 6 เล่นตามหน้าที่ แต่มีจังหวะหลุดโฟกัสให้เห็น
เสกสรรค์ ราตรี 8 ตัวเปลี่ยนเกมของจริง กล้าลุย กล้ายิง จังหวะตัดสินใจดี
ธีรศักดิ์ เผยพิมาย 5 ยังขาดความมั่นใจ ต้องพัฒนาเรื่องจบสกอร์
จู๊ด เบลล์ 6 แม้พลาดจุดโทษ แต่การเคลื่อนที่ดีและมีอนาคต
สิ่งที่ฮัดสันต้องเร่งปรับ
แม้ชนะในเกม ไทย พบ สิงคโปร์ แต่ปัญหาใหญ่คือเกมรับที่ยังไม่น่าไว้วางใจ
คู่เซนเตอร์ยังขาดสปีดและความมั่นใจเมื่อเจอบอลเร็ว
ฟูลแบ็กสองฝั่งมีจังหวะเหม่อและยืนผิดตำแหน่ง
ส่วนแดนกลางบางจังหวะจ่ายบอลช้า ทำให้โดนตัดเกมง่าย
ฮัดสันคงรู้ดีว่าจุดไหนต้องแก้ แต่คำถามคือเขาจะปรับได้เร็วแค่ไหน
คาดการณ์เกมต่อไป ทีมชาติไทย พบ ศรีลังกา
ศรีลังกาเป็นทีมที่คุณภาพโดยรวมด้อยกว่าสิงคโปร์ แต่เป็นทีมที่เล่นเกมรับแน่นและวิ่งสู้ฟัดตลอดเกม
ถ้าไทยยังมีปัญหาเกมรับแบบในเกม ไทย พบ สิงคโปร์ ก็มีโอกาสโดนสวนกลับเล่นงานได้
อย่างไรก็ตาม ด้วยศักยภาพแนวรุกของไทยที่ดีกว่าอย่างชัดเจน ผมคิดว่าเกมนี้ไทยน่าจะคุมเกมได้ตั้งแต่ต้น
หากชนาธิปจูนกับแดนหน้าดีขึ้น และมีการหมุนเวียนผู้เล่นอย่างเหมาะสม
เกมนี้ไทยมีโอกาสยิงได้หลายลูก
จากประสบการณ์ที่ดูทีมไทยมาหลายปี ผมให้การคาดการณ์แบบมีเหตุผลและมีหัวใจแฟนบอลปนอยู่ดังนี้
คาดการณ์ผลการแข่งขัน ไทย พบ ศรีลังกา ไทยชนะ 3-0
นัดต่อไปจะเป็นบททดสอบสำคัญว่าไทยยุคฮัดสันสามารถพัฒนาได้เร็วแค่ไหน
ถ้าแก้เกมรับได้ เกมอุ่นเครื่องต่อจากนี้จะสนุกขึ้นแน่นอน
เข้าถึง 100
POP : Menu
Go to top
